วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Lecture 1/2/11

Lecture 1/2/11

Enterprise System
Supply Chain Management
Enterprise Resource Planning
เนื่องจากแต่ละแผนก แต่ละองค์กร ก็มีความแตกต่างกันออกไป จึงต้องใช้ระบบที่แตกต่างกัน แต่ก็ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าของระบบและความพร้อมของพนักงานตนด้วย เป็น Traditional information systems ซึ่งข้อมูลจะกระจัดกระจายมาก และไม่เชื่อมโยงกัน คนในองค์กรรวมไปถึงลูกค้าไม่ได้เอาข้อมูลมาแชร์กัน ซึ่งสร้างผลกระทบทางลบให้แก่บริษัท
บริษัทหลายบริษัทจึงนำ Enterprise Systems เข้ามาใช้กันอย่างกว้างขวางในการรับส่งข้อมูลต่างๆ  แต่ละ key function ก็มีการบูรณาการในการทำงาน เช่น Dell ที่ถึงแม้ฐานการผลิตจะอยู่ที่จีน แต่ customer sevice ตั้งอยู่ที่ประเทศอินเดีย แต่ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีระบบการรับส่งข้อมูลที่ดี
Enterprisewide Systems
§  ERP: ระบบที่ใช้ภายในองค์กร เช่น SAP, Oracle
§  CRM: ระบบที่ใช้ดูแลด้านฐานลูกค้า
§  Knowledge Management Systems (KM): ระบบที่บริหารความรู้ภายในองค์กร
§  Supply Chain Management (SCM): ระบบที่ใช้บริหาร supply chain ของบริษัท ตัวอย่างเช่น Walmart ที่ระบุว่า บริษัทใดที่ต้องการจะขายกับตน ต้องสร้างระบบ supply chain ขึ้นมาเพื่อที่จะได้เชื่อมต่อกับระบบของตนได้ เช่น เมื่อของที่ชั้นวางจะหมด ระบบก็จะส่งข้อมูลไปที่บริษัทผู้ขายนั้นทันที
§  Decision Support Systems (DSS): ระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตัดสินใจของพนักงานในระดับต่างๆ
§  Intelligent Systems: บางบริษัทเรียกว่าเป็น software เอาไว้ใช้สำหรับหาข้อมูลที่ซ้อนอยู่ในบริษัท
§  Business Intelligence (BI)
§  Warehouse Management System (WMS): ระบบที่ใช้บริหาร warehouse เช่น ดูแลในเรื่องของการวางของ จำนวน และข้อมูลของของ
§  Inventory Management System (IMS): ระบบที่เอาไว้จัดการสินค้าคงเหลือ
§  Fleet Management system: ระบบที่เอาไว้ดูว่าขณะนี้ของอยู่ที่ใดแล้ว
§  Vehicle Routing and Planning: วางแผนว่าจะไปเส้นทางใดถึงจะเป็นทางที่ดีที่สุด
§  Vehicle Based System: ระบบที่ใช้จัดการรถบรรทุก มีระบบติดตามและบอกเส้นทาง GPS  เช่น นครชัยแอร์ ที่มีระบบ GPS และระบบควบคุมประสิทธิภาพ
10 IT Trends for Logistics Supply Chain Management
  1. Connectivity: การเชื่อมต่อต่างๆ เช่น wireless (802.11n standard, 802.11a หรือ 802.11g), Bluetooth หรือ GPRS
  2. Advanced Wireless : Voice & GPS นำมาใช้ในการสื่อสารด้วยเสียงและจีพีเอสเชื่อมต่อไปยังคอมพิวเตอร์ เช่น บริษัทอินเตอร์เมค
  3. Speech Recognition: การสั่งงานด้วยเสียง เช่น การใช้งานใรถยนต์, อุปกรณ์สำหรับผู้พิการ
  4. Digital Imaging: การประมวลผลภาพดิจิตอล ทำให้การทำงานเร็วขึ้น สามารถทำให้เอกสารเป็นดิจิตอล เช่น ส่งใบเสร็จเป็นไฟล์เข้าฐานข้อมูลของบริษัทได้เลย และพิมให้ลูกค้าได้ด้วย
  5. Portable Printing: การพิมพ์แบบเคลื่อนที่
  6. 2D & other barcoding advances
  7. RFID: ชิป ที่มีลักษณะคล้าย Barcode ใช้มากในระบบ supply chain เช่น บัตร easypass, ติดไว้กับตัวสินค้า
มีสองแบบ คือ Active และ Passive
  1. Real Time Location System; RTLS: ระบบแสดงตำแหน่งในเวลาจริง ทำให้องกรสามารถขยายเครือข่ายแลนไร้สายขององกรเข้าสู่ระบบการติดตามสินทรัพย์
  2. Remote Management : การจัดการทางไกล โดยใช้ระบบแลนไร้สายเพื่อติดตามสินทรัพย์ของคลังสินค้าและโรงงาน อยู่ออฟฟิตหนึ่ง แต่ก็สามารถจัดการเรื่องในอีกออฟฟิตหนึ่งได้
  3. Security: ความปลอดภัยของอุปกรณ์และเครือข่ายไร้สาย
Supply Chain Management
§  Collaborative Planning ใช้ในการวางแผน เตรียมการในการสั่งซื้อสินค้า เพื่อให้เก็บสินค้าเท่าที่จำเป็น ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้า
§  Vendor Managed Inventory (VMI)
§  E-Business Systems & Supply Chains
§  Business Value of SCM
Enterprise Resource Planning (ERP) Systems
                Software เหล่านี้ ระบบเหล่านี้ มักจะนำมาใช้ทีละ module ค่อยๆนำมาใช้ โดยใช้ควบคู่ไปกับระบบเก่า เพื่อไม่ให้พนักงานต้องเรียนรู้มาเกินไป ค่อยๆปรับตัวได้ โดยตัวอย่างผู้ให้บริการระบบ ERP คือ SAP, Oracle เป็นต้น
                โดย software เหล่านี้ถึงแม้จะมีประโยชน์ที่สูง แต่มักจะมีราคาที่แพง และก่อนที่นำมาใช้งานก็จะต้อง customize ให้เข้ากับระบบการใช้งานของบริษัทก่อน และก็มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบอีกด้วย จึงทำให้บริษัทเล็กๆไม่ค่อยนิยมนำมาใข้งาน ซึ่งทั่วไปแล้ว บริษัทที่นำ ERP มาใช้ มักจะนำไปใช้กับ 3 ด้าน หลักๆคือ บัญชี ไฟแนนซ์ และสินค้าคงเหลือ
 5302110050

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น